วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

wireless security

การรักษาความปลอดภัยแบบไร้สาย
รายละเอียดของแท็กยินดีต้อนรับสู่หน้าแท็ก'การรักษาความปลอดภัยแบบไร้สาย'ที่ Technorati หน้านี้มีเนื้อหาจากที่ไกลถึงของ blogosphere ที่ผู้เขียนมี"แท็ก"กับ"การรักษาความปลอดภัยแบบไร้สาย'

คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการ'ไร้สายรักษาความปลอดภัยหรือไม่ คุณต้องการที่จะเป็นผู้มีอำนาจในการ'การรักษาความปลอดภัยแบบไร้สาย'? คุณสามารถเขียนคำอธิบายที่จะปรากฏเป็นสิทธิที่นี่



ระบบ LAN ไร้สาย หรือ Wireless LAN กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขั้นเรื่อยๆ ขณะที่ความปลอดภัยของระบบ Wireless LAN ยังคงเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างถูกวิธี เราควรติดตั้งระบบ Wireless LAN ให้ปลอดภัยตามหลักการด้าน Information Security เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากผู้ไม่หวังดี



ลองตรวจสอบระบบ Wireless LAN ของคุณดูว่าได้ทำตาม 10 เทคนิคการติดตั้งระบบ Wireless LAN ให้ปลอดภัยแล้วหรือยัง ถ้ายังก็แปลว่าระบบWireless LAN ของคุณยังมีความเสี่ยงอยู่ และควรได้รับการแก้ไขให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นนะครับ



10 เทคนิคการติดตั้งระบบ LAN ไร้สายให้ปลอดภัยจากแฮกเกอร์



1. วาง Access Point (AP) ในตำแหน่งที่เหมาะสม

ไม่ควรวาง AP ไว้ในระบบ LAN ภายในควรวาง AP บริเวณหน้า Firewall จะปลอดภัยกว่า แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ต้องวางภายใน LAN ที่เป็น Internal Network ก็ควรจะมีการเพิ่มการ Authentication, Encryption เข้าไปด้วย



2.กำหนดรายการ MAC Address ที่สามารถเข้าใช้AP ได้เฉพาะที่เราอนุญาตเท่านั้น

การ Lock ด้วยวิธีกำหนดค่า MAC Address นั้น แม้ว่าจะไม่ใช้วิธีที่กัน Hacker ได้ 100% ก็ตามเพราะ Hacker สามารถ Spoof ปลอม MAC Address ได้แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีการกำหนดเสียเลย เหมือนกับว่าเราควรมีการป้องกันหลายๆ วิธีการกำหนด MAC Address ให้เฉพาะเครื่องที่เราอนุญาตก็เป็นการกันในชั้นหนึ่ง เพื่อให้Hacker เกิดความยากลำบากในการ Hack เข้าสู่ระบบ Wireless LAN ของเรา



3. จัดการกับ SSID (Service Set Identifier) ที่ถูกกำหนดเป็นค่า Default มาจากโรงงานผลิต

ค่า SSID จะถูกกำหนดเป็นค่า Default มาจาก Vendor เช่นCisco Aironet กำหนดเป็นชื่อ tsunami เป็นต้น เราควรทำการเปลี่ยนค่า SSID ที่เป็นค่า Default ทันทีที่เรานำ AP มาใช้งาน และ ควรปิดคุณสมบัติการ Auto Broadcast SSID ของตัว AP ด้วย



4. ใช้ WEP (Wired Equivalent Privacy) security protocol ในการเข้ารหัสข้อมูลระหว่าง IEEE 802.11b Wireless LAN Client และ Access Point (AP)

มาตรฐาน WEP เป็นมาตรฐานหลักที่มีใน AP ทุกตัว แต่โดยปกติแล้วจะไม่ได้เปิดใช้ ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้โปรแกรม Packet Sniffer เช่น Ethereal (www.ethereal.com) ดักจับ Packet และสามารถอ่านข้อมูลที่เป็น Plain text ได้เพราะ AP มีลักษณะการทำงานแบบ HUB ไม่ใช่Switching เหมือนที่เราใช้กันใน LAN ทุกวันนี้ เราจึงควรมีการเข้ารหัส Packet ของเราในระดับ Layer 2 เพื่อให้ยากต่อการจับด้วยโปรแกรมประเภทนี้ ถ้าเราเพิ่มการgenerate WEP Key เป็นแบบ Dynamic จะช่วยให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้งานแบบSession-Based และ User-Based WEP Key ก็ช่วยได้เช่นกัน







5. อย่าหวังพึ่ง WEP อย่างเดียว เพราะ WEP สามารถที่จะถูก Crack ได้

การเพิ่ม WEP เข้ามาในการใช้งาน Wireless LAN เป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ WEP ก็ไม่สามารถกันพวกแฮกเกอร์ได้ 100% เพราะมีโปรแกรมที่สามารถถอดรหัส WEP ได้ ถ้าได้IP Packet จำนวนมากพอ เช่น โปรแกรม AirSnortจาก http://www.shmoo.com เป็นต้นเพราะฉะนั้นเราควรเพิ่มการป้องกันใน Layer อื่นๆเข้าไปด้วย



6.ใช้ VPN ร่วมกับการใช้งาน Wireless LAN

การใช้ VPN ระหว่าง Wireless LAN Client กับ AP ต่อเชื่อมไปยัง VPN Server เป็นวิธีที่ปลอดภัยมากกว่าการใช้ WEP และ การ Lock MAC Address การใช้ VPN ถือได้ว่าเป็นการป้องกันที่ลึกอีกขั้นหนึ่ง และเป็นการรักษาความปลอดภัยในลักษณะ end to end อีกด้วย



7. เพิ่มการ Authentication โดยใช้ RADIUS หรือ TACACS Server

ถ้าองค์กรมี RADIUS Server หรือ CISCO Secure ACS (TACACS) Server อยู่แล้ว สามารถนำมาใช้ร่วมกับ AP ที่มีความสามารถในการตรวจสอบUsername และ Password ก่อนที่ผู้ใช้จะเข้าสู่ระบบ (Authentication Process) และทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องจำหลาย Username หลาย Password ผู้ใช้สามารถใช้ Username และPassword เดียวกับที่ใช้ในระบบ Internal LAN ได้เลย ทำให้สะดวกในการบริหารจัดการAccount ภายใน และ IT Auditor ควรตรวจสอบการเข้าระบบ Wired และ Wireless LAN จากLog ของระบบด้วย



8. การใช้ Single Sign On (SSO) ดังที่กล่าวมาแล้วในข้อ 7 ควรกำหนดเป็น Security Policy ให้กับองค์กรสำหรับระบบWired และ Wireless LAN

เพื่อที่เราสามารถที่จะกำหนดคุณสมบัติ AAA ได้แก่Authentication, Authorization และ Accounting ได้ การใช้งานควรกำหนด Security Policy ทั้งระบบ Wired และ Wireless LAN ไปพร้อมๆ กัน และแจ้งให้ผู้ใช้ได้ทราบปฎิบัติตาม Security Policy และสามารถตรวจสอบได้



9. อุปกรณ์ Wireless LAN จากแต่ละผู้ผลิตอาจมีคุณสมบัติแตกต่างจากมาตรฐานและมีปัญหาในการทำงานร่วมกัน

แม้ว่าผู้ผลิตอุปกรณ์จะผลิตตามมาตรฐาน IEEE 802.11b ผู้ผลิตบางรายมักจะเพิ่มคุณสมบัติบางอย่างเฉพาะผู้ผลิตรายนั้นๆ เช่นเพิ่มคุณสมบัติทางด้าน security ของอุปกรณ์เป็นต้นเราควรตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะติดสินใจซื้อมาใช้งานจริงว่าอุปกรณ์ไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกัน



10.ระวัง Rouge AP แม้คุณจะไม่ได้ใช้ระบบ Wireless LAN เลยก็ตาม

การ Hack จากภายในองค์กรในสมัยนี้ทำได้ง่ายแม้องค์กรจะไม่ได้ใช้ระบบ Wireless LAN เลย วิธีการก็คือมีผุ้ไม่หวังดีทำการแอบติดตั้ง AP ที่ไม่ได้รับอนุญาติเข้ากับระบบ Internal LAN เรียกว่า Rouge AP จากนั้นผุ้ไม่หวังดีก็สามารถ Access Internal LAN ผ่านทาง Rouge AP ที่ทำการแอบติดตั้งไว้ ซึ่งเขาสามารถเข้าถึงระบบภายในได้ จากภายนอกอาคาร หรือจากที่จอดรถของบริษัทก็ได้ ถ้าระยะห่างไม่เกิน 100 เมตร จาก AP ที่แอบติดตั้งไว้



เราควรมีการตรวจสอบ Rouge AP เป็นระยะๆ โดยใช้โปรแกรมNetworkstumbler (http://www.netstumbler.com) เพื่อหาตำแหน่งของ Rouge AP หรือเราควรติดตั้ง IDS (Intrusion Detection System) เช่น SNORT (http://www.snort.org) เพื่อคอยตรวจสอบพฤติกรรมแปลกๆ ในระบบ Internal LAN ภายในของเราเป็นระยะๆจะทำให้ระบบของเรามีความปลอดภัยมากขึ้น และ มีการเตือนภัยในลักษณะ Proactive อีกด้วย

Overview of Wireless Network Penetration Test and WarDriving

การ Hack Wireless ไม่ใช่สิ่งใหม่เลย ถ้าหากลอง Search ข้อมูลดูใน internet ใช้คีย์เวิร์ด “Wireless Hacking tools” หรือ “Wireless Crack” คุณจะพบว่ามีซอร์ฟแวร์มากมายที่ดาวน์โหลดได้ฟรีเอาไว้ใช้เพื่อประโยชน์ของการ hack wireless เช่น
1.Tools เพื่อใช้ Scan: NetStumbler, Kismet, Airodump
Tool พวกนี้มีประโยชน์คับ เพราะมันบอกเราได้ว่าแถวๆนี้มี wireless network อะไรอยู่บ้าง วิ่งกันที่ channel อะไร encrypt แบบไหน ระดับสัญญาณเป็นยังไง บางตัวสามารถดูได้ว่า Client เครื่องไหน Mac Address อะไรมาเกาะบ้างและสามารถเก็บ Packet มาดูได้อีกด้วย
2.Tools เพื่อใช้ในการ Crack: Aircrack, Airjack, Asleap, ChopChop พวกนี้เอาไว้ Crack พวกการ encryption ที่ Crack ได้ง่ายๆอย่างเช่น WEP, WPA-PSK และ LEAP คับ สำหรับผมแล้วผมเองเคยลอง Hack เพื่อการศึกษาดูเหมือนกันคับ ความเร็วที่เร็วที่สุดที่เคยทำได้ก็คือ 1 วินาทีเท่านั้นเองคับ
ที่เร็วขนาดนี้อาจจะเป็นเพราะผมเก็บ packet มาได้มาก และ key ที่ตั้งไว้ก้อง่ายต่อการ crack ด้วยคับ ส่วนใหญ่แล้ว Hacker มือสมัครเล่นอาจจะต้องการ crack network เพียงเพื่อต้องการ access internet ฟรีเท่านั้น ซึ่งมีแค่ Tools พวกนี้ก็เพียงพอแล้วล่ะคับ
��

3.Tools เพื่อใช้ในการยิงหรือ Attack: Void11, Disassociate, FakeAP
Tool พวกนี้เอาไว้ยิง Packet มารบกวนการเชื่อมต่อของ Client ไปยัง AP คับ มีประโยชน์สำหรับการทำ Man-In-The-Middle Attack อันนี้จะเริ่ม Advanced แล้วล่ะคับ คนใช้ Tools พวกนี้ได้ส่วนใหญ่แล้วจะต้องมี hardware เสริมอย่างเช่น Wireless Card ที่สามารถเปลี่ยน mode เป็น Access Point ได้ในตัวและเสาอากาศ���ายนอกเพื่อเพิ่มความแรงของสัญญาณอีกด้วย จะเห็นว่ามีการลงทุนระดับนี้คงไม่ได้ต้องการเพียงเพื่อใช้ internet ฟรีเป็นแน่แท้คับ

4.Tools อื่นๆเพื่อใช้ Analyze Packet:
WireShark หรือ Ethereal คงขาดไม่ได้ล่ะคับ สำหรับ Tool ที่ใช้เพื่อการอ่านเนื้อหาใน Packet จริงๆแล้ว WireShark หรือ Ethereal นี้ถือว่าเป็น Tool พื้นฐานที่คนทำงาน IT อย่างเราๆควรจะมีใช้กันเพื่อการ Troubleshooting อยู่แล้วล่ะคับ และสำหรับบรรดา Hacker แล้ว มันค่อยข้างจะเป็นสิ่งจำเป็นทีเดียว เพราะมันจะทำให้ Hacker หา Target ในการเข้าไปโจมตีได้ดีทีเดียวคับ ผมขอโชว์ Screenshot นิดๆหน่อยๆมาให้ดูกันเล่นๆนะคับ ว่าTool พวกนี้เห็นอะไรได้


Survey Wireless LAN ในเมืองไทย

วิธีการนั้นง่ายมั่กๆคับ แต่สิ่งที่จำเป็นนั้นก็คืออุปกรณ์ Hardware ที่ต้องใช้ร่วมด้วยดังนี้คับ

1.Notebook หรือ Laptop เนื่องจากว่าในการ Survey กันนั้นเราจะต้องการความคล่องตัวคับ คงไม่เหมาะนักถ้าหากจะต้องหิ้ว Desktop PC ไปกับเราด้วยคับ อ้อ…แล้วถ้าหากมีหัวแปลง Power ไว้เสียบในรถด้วยจะดีมากคับกันแบทหมดระหว่างทาง
2.Wireless Card คราวนี้ไม่หายากเหมือนการ Crack WEP Key คับ เพราะเราจะใช้กับ Program NetStumbler ซึ่งมักจะใช้ได้ดีกับ Wireless Card ทั่วไปอยู่แล้ว สำหรับผมนั้น ผมใช้ Orinoco Gold Card คับ (ในรูปจะเห็นว่าเป็น Compaq แต่จริงๆแล้วมันคือ Chipset เดียวกับของ Orinoco คับ)
3.External Antenna หรือเสาอากาศเพิ่มความแรงคับ สาเหตุที่ผมเลือก Wireless Card รุ่นนี้ก็เพราะผมเห็นว่ามันมีรูเสียบเสาอากาศเพื่อเพิ่มสัญญาณได้คับ เนื่องจากเวลาเราไป Wardriving เราจะอยู่���ายนอกอาคารคับ ดังนั้นยิ่ง Wireless Card ของเราสามารถกวาดสัญญาณได้แรงเท่าไหร่เราก็จะเก็บข้อมูลระแวกนั้นได้เยอะเท่านั้นคับ สำหรับเสาอากาศนั้นจะเป็นแบบ Omni หรือ Directional antenna ก็ได้คับ ขอให้มีค่า Dbi เยอะๆ (5-12Dbi) ก็เหลือแหล่แล้วคับ เสาอากาศนี้จะเชื่อมต่อกับตัว Wireless Card ได้จะต้องมีสาย Pigtail หรือหางหมูด้วยนะคับ หน้าตาจะเป็นดังรูป
4.GPS Receiver (Global Positioning System) ตัวนี้เป็นอุปกรณ์ระบุตำแหน่งจากดาวเทียบคับ ส่วนใหญ่รถหรูๆจะมีกันเอาไว้ใช้กับ Software Navigator กันหลงทาง มีขายทั้งเป็นแบบที่ใช้โดดๆอย่างในรูปหรือเป็น Feature นึงของมือถือรุ่นใหม่ๆหรูๆคับ สำหรับผม ผมใช้ GPS ของ Holux GPSlim 236
http://www.mindterra.com/blog/wp-content/uploads/2007/10/102250-0825-surveywi3.jpg
รวมทั้งหมดแล้วหน้าตาจะเป็นอย่างในรูปข้างล่าง
http://www.mindterra.com/blog/wp-content/uploads/2007/10/102250-0825-surveywi4.jpg

วันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2554

10 ขั้นตอน ก่อนซื้อ Notebook มือสอง



ใครไม่อยากซื้อของแพง แต่ล้าสมัยเร็ว อาจลองหันมาใช้ Notebook มือสองกันบ้าง มี
10 ขั้นตอนก่อนจ่ายตังค์มาบอก

สำหรับคนที่ชอบใช้ของใหม่อาจไม่สนใจ ซื้อคอมพิวเตอร์มือสองมาใช้ แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆ แล้วคอมพิวเตอร์มือสองเหล่านี้ บางครั้งมีประสิทธิภาพพอๆ กับของใหม่ที่กำลังโฆษณาในทีวีด้วยซ้ำ แถมราคาก็ถูกเอามากๆ เสียด้วย

แต่ ด้วยกลยุทธ์การตลาดของผู้ผลิตที่ ต้องการทำยอดขายสูงๆ ทำให้โฆษณาที่ออกมานั้นมักจะโน้มน้าวให้ผู้บริโภคซื้อเครื่องใหม่ไปเลย โดยไม่นิยมให้ลูกค้าอัพเกรดเครื่องเดิมที่ใช้อยู่ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คซึ่งเริ่มเป็นที่นิยมกันมากขึ้นในทุกวันนี้ ดังนั้น หากใครสนใจซื้อโน้ตบุ๊คมือสองมาใช้ อาจเริ่มต้นด้วย 10 ขั้นตอน ดังนี้

1. ปรับความคิดเสียก่อน เพราะยังไงคนส่วนใหญ่ก็ชอบของใหม่ ยิ่งเทคโนโลยีล่าสุดยิ่งน่าดึงดูดใจ แต่จริงๆ แล้วโน้ตบุ๊คมือสองที่ขายกันเมื่อปีที่แล้วหรือต้นปีนี้ มีประสิทธิภาพไม่แพ้รุ่นที่ขายอยู่ขณะนี้เลยทีเดียว ที่สำคัญ ซื้อมือสองยังได้ Windows XP อีกด้วย (Vista อย่าเพิ่งน้อยใจ)

2. หาแหล่งขายของมือสองถูกๆ ถ้าซื้อจากเว็บไซต์ได้จะดีมาก เพราะราคาถูกกว่าซื้อตามร้านทั่วไปค่อนข้างมาก แต่ข้อดีของการซื้อที่ร้านคือมี warranty ให้ด้วย แต่ของมือสองคงหวังอะไรมากไม่ได้ เพราะฉะนั้น ขอแนะนำให้ซื้อจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ อย่าง eBay โดยเลือกผู้ขายประเภท "no less than 100% feedback rating" เพราะถ้าคอมพิวเตอร์ที่สั่งซื้อเกิดความเสียหาย หรือใช้ไม่ได้ตามที่โพสต์ในเว็บ ผู้ขายจะคืนเงินให้

3. ตรวจสภาพภายนอกของเครื่อง ดูว่ามีความเสียหายมากน้อยแค่ไหน ถ้ามันมีแค่รอยขีดข่วน หรือถลอกบริเวณมุมใดมุมหนึ่งของตัวเครื่อง ก็อย่าไปคิดมาก ตราบใดที่เครื่องยังทำงานได้ดี เรื่องรอยขีดข่วนถือเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย ของใช้งานก็ต้องมีร่องรอยบ้างเป็นธรรมดา

4. เปิดเครื่องดูหน้าจอ เพราะหนึ่งในชิ้นส่วนที่แพงที่สุดของโน้ตบุ๊คคือ "จอ" ถ้าเปิดเครื่องแล้วพบว่าหน้าจอมีสีเพี้ยน จะเป็นสีม่วงหรือชมพูก็แล้วแต่ อย่าไปซื้อ ต่อให้สภาพเครื่องใหม่แค่ไหน หรือซีพียูแรงยิ่งกว่าอะไรดี ก็ไม่คุ้มที่จะซื้อไปซ่อมจอ เพราะมันแพงมาก

5. ตรวจช่องเสียบและอุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Bluetooth หรือ Wi-Fi เพราะฮาร์ดแวร์เหล่านี้มักจะต่อเข้าโดยตรงกับเมนบอร์ด ซึ่งราคาค่าซ่อมหรือเปลี่ยนก็แพงพอตัว แต่ถ้าช่อง USB มีหลายช่อง เสียไปสักช่องก็คงไม่เป็นไรนัก หรือถ้าช่องเสียบหูฟังเสีย แต่คุณมีหูฟัง Bluetooth ใช้อยู่แล้ว ก็ไม่ต้องไปใส่ใจเช่นกัน

6. ทดสอบ Hard Driveว่า มีอะไรเสียหายหรือไม่ โดยคลิกไปที่ My Computer จากนั้นก็เลือก hard drive ที่ต้องการตรวจสอบ แล้วคลิกขวาเพื่อเลือก Properties เมื่อมีหน้าต่างโผล่ขึ้นมาให้คลิกเมนู Tools จากนั้นก็เลือกหัวข้อ Error-checking คลิก Check Now ถ้าไม่มีความผิดปกติใดๆ ก็ผ่าน แต่ถ้าพบความเสียหาย ก็ไม่ต้องกังวล เพราะเดี๋ยวนี้ hard drive ถูกลงกว่าแต่ก่อนมาก

7. ตรวจดูประสิทธิภาพของ CD Drive โดยลองไรท์แผ่นทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น CD-R, CD-RW, DVD-R, DVD+R DL, ฯลฯ

8. ทดสอบแบตเตอรี่ โดยเปิดใช้เครื่องจนกระทั่วไฟหมด แล้วดูว่ากินเวลามากน้อยแค่ไหน ถ้าแป๊บเดียวไฟก็หมด แบบนี้แสดงว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมแล้ว จุดนี้อาจต่อรองผู้ขายให้ลดราคาลงอีกได้

9. ถ้าคุณขี้เกียจปฏิบัติตามกระบวนการทั้งหมดนี้ ก็ลองให้ทางร้านหรือใครที่เชี่ยวชาญเรื่องคอมพิวเตอร์ช่วยทดสอบให้ก็ได้ อาจจะเสียสตางค์เป็นค่าเหนื่อยนิดหน่อย แต่ก็ถือว่าคุ้ม

10. อย่าหงุดหงิดหรือผิดหวัง ถ้าพบว่าโน้ตบุ๊คที่ซื้อมามีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เพราะปัญหาพวกนี้ก็เกิดขึ้นกับคนที่ซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่แกะกล่องเช่นเดียว กัน และถึงแม้คุณอาจจะต้องเสียเงินซ่อมชิ้นส่วนบางชิ้น หรืออัพเกรดเครื่องบ้างก็ไม่ต้องคิดมาก เพราะมันเป็นเรื่องปกติของการใช้ของมือสองอยู่แล้ว

เครดิต : variety.teenee.com

วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2554

อยากให้ทุกคนไม่ตกยุคครับ ดูข่าวผ่านมือถือฟรี อัพเดท 24 ชม

มาแล้วครับ ข่าวจาก Mobile247 ที่ทางนิตยสาร whatphone นำมาให้อ่านฟรี ผ่านทางมือถือ อัพเดททุกวัน 24 ชม ครับ ที่สำคัญรองรับมือถือทุกรุ่นในตลาด


วิธีง่ายๆ

1.พิมพ์ URL นี้ในมือถือของท่าน แค่นั้นเอง http://www.whatphone.net/mobile247
2.ทำการ add bookmark ไว้ วันหลังจะได้ไม่ต้องพิมพ์อีกครับ ง่ายมาก ข่าวไวมากๆ ขอชมทีมงานเลยครับ
ปล.จะเสียค่า gprs นะครับเหมือนเล่น net ธรรมดา นอกนั้นฟรีหมดครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก nokiagang.com

Download: "ดูดคลิป-แปลงไฟล์"ได้เลย

หายไปพักใหญ่สำหรับคอลัมน์ Download วันนี้กลับมาเอาใจผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่เป็นนักสะสมคลิปวิดีโอที่สตรีมมิ่ง มาจากเว็บไซต์ดังๆ ซึ่งฟรีแวร์ที่นำมาฝากกันนี้ รับรองว่า ต้องเป็นที่ถูกใจชาวดูดคลิปริปไฟล์อย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะใช้ง่ายแล้ว มันยังแปลงไฟล์ที่ดูดมาให้ได้ในคราวเดียวอีกด้วย...ว้าว!!!



เป็น ที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันผู้ใช้เน็ตความเร็วสูงส่วนใหญ่หันมานิยมรับชมสตรีม มิ่งวิดิโอ และออดิโอบนคอมพิวเตอร์กันอย่างแพร่หลาย โดยไฟล์วิดีโอและเสียงจะทะยอยส่งมาจากเว็บไซต์ให้บริการต่างๆ แต่ในบางครั้ง (หรือบ่อยครั้ง) ที่คุณอาจจะต้องการชมคลิป หรือฟังเสียง (เพลง,บรรเลง,พูด) อีกครั้ง หรือแม้แต่ก็อปปี้เก็บไว้ ซึ่งมีวิธีทำมากมาย แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เป็นเรื่องง่ายไปเสียทีเดียว


การ บันทึกสตรีมมิ่งวิดีโอ และออดิโอจากอินเทอร์เน็ตด้วยซอฟต์แวร์ที่ใช้กันวันนี้ ส่วนใหญ่ผู้ใช้ทำแค่ก็อปปี้ URL ของคลิป หรือเว็บไซต์ แต่บ่อยครั้งที่พบว่า โปรแกรมที่มีอยู่ในเครื่องไม่สามารถเล่นไฟล์วิดีโอที่ดาวน์โหลดมาได้ Tubemaster++ เป็นฟรีแวร์ที่สามารถจัดการงานทุกอย่างในคราวเดียวได้โดยอัตโนมัติ ตั้งแต่ดูดคลิป(วิดีโอ และออดิโอ)ที่คุณกำลังเล่นจากเว็บไซต์ดังๆ อย่างเช่น YouTube, DailyMotion, MySpace, Google Videos, LastFM, Deezer, Jiwa, Songza ฯลฯ ไปจนถึงแปลง และจัดเก็บไฟล์ในฟอร์แมตที่คุณสามารถเล่นได้ด้วย Player ที่อยู่ในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น AVI, MPEG, MP3, MP4, iPod, PSP และอีกเพียบ สุดยอด!!!

ข่าวจาก arip.co.th